การผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ของญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 7.47 ล้านตัน ซึ่งเป็นการลดลง 12 เดือนติดต่อกัน
จากข้อมูลของสหพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าแห่งญี่ปุ่น (Japan Iron & Steel Federation) ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ผลผลผลิตได้ลดลง 8.8% จากเดือนมกราคม
ผลผลิตจากเตาออกซิเจนขั้นพื้นฐาน (Basic oxygen furnace) อยู่ที่ 5.55 ล้านตัน ของการผลิตโดยรวมทั้งหมด ลดลง 8.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และลดลง 7.2%
เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ผลผลิตจากเตาอาร์คไฟฟ้า อยู่ที่ 1.92 ล้านตัน ปรับขึ้น 4.8% จากเดือนมกราคม แต่ลดลง 0.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การผลิตประจำปีจากเตาเผาแบบดั้งเดิม (conventional furnaces) ลดลงเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน ในขณะที่ เตา EAFs มีการลดลงครั้งแรกในรอบสองเดือน
สำหรับผลิตภัณฑ์รีดร้อน โดยผลิตภัณฑ์เหล็กรีดร้อนแถบกว้าง (hot rolled wide strip) พบว่าปริมาณลดลงมาที่สุด ที่ 219,779 ตัน ลดลง 6.7% จากเดือนก่อน
มาอยู่ที่ 3.06 ล้านตัน ในขณะที่เหล็กโครงสร้าง (section steel) ลดลง 53,321 ตัน หรือ 12.6% อยู่ที่ 368,900 ตัน ผลผลิตของเหล็กเส้น (steel bars)
เป็นในทางตรงข้ามผลผลิตเหล็กเส้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.2% อยู่ที่ 674,900 ตัน
ท่ามกลางผลผลิตที่ลดลงของเหล็กรีดร้อนแถบกว้าง (hot rolled wide strip) โตโยต้ามอเตอร์คอร์ป (Toyota Motor Corp) ระงับการผลิตเป็นเวลาหลายวัน
ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีสายการผลิตในประเทศมากถึง 14 สาย จากการผลิตในโรงงาน 9 แห่ง หลังจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ส่งผลกระทบต่อ
การจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับโรงงาน
“ในญี่ปุ่นยังคงมีความซบเซาในการเคลื่อนย้ายสินค้าในตลาด สำหรับวัสดุก่อสร้างต่างๆ และมีความล่าช้าในการเคลื่อนไหวของราคาจัดจำหน่าย” โตเกียวสตีลกล่าว
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เนื่องจากยังคงราคาในเดือนเมษายน สำหรับ H-beams และเหล็กเส้น (rebar) ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ที่ 93,000 เยน/ตัน ($855) และ 73,000 เยน/ตัน
ตามลำดับ ตั้งแต่เดือนมีนาคม
แต่ Tokyo Steel กล่าวว่าสินค้าคงเหลือของเหล็กแผ่นในญี่ปุ่นอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่ง และจึงตัดสินใจขึ้นราคาในเดือนเมษายน
สำหรับเหล็กแผ่นรีดร้อน SPHC 1.7-22 มม. ขึ้น 5,000 เยน/ ตัน มีราคาเป็น 84,000 เยน/ตัน
ต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตเหล็กเพิ่มขึ้นตามข้อมูลของ Tokyo Steel โดยระบุว่า "ราคาวัตถุดิบเหล็กที่สูงราคาน้ำมันดิบ และราคาที่วัตถุดิบอื่นที่เกี่ยวข้องก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน"
แหล่งที่มา : Steel Business Briefing